วันนี้ (20 กรกฎาคม 2568) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม และการให้ความช่วยเหลือ ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธาน และนายพงศ์พัฒน์ เสมอคำ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ พร้อมด้วย นายสุประภาพ พัฒน์สิงหเสนีย์ ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำ เป็นผู้แทนกรมทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมการประชุม และมีผู้แทนจากกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพี้อมเพรียง เพื่อประเมินสถานการณ์ล่าสุดและวางมาตรการเตรียมความพร้อมรับมืออย่างรัดกุม การประชุมมีวาระสำคัญคือการติดตามสภาพอากาศ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานความเคลื่อนไหวของพายุที่ก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งอาจทวีความรุนแรงและเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งการก่อตัวของพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 560 กิโลเมตร ทางตะวันออกของจ้านเจียง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 93 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในช่วงฤดูฝนนี้ ขณะนี้พายุ "วิภา" กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า ในช่วงวันที่ 21-22 ก.ค. 68 จะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ หลังจากนั้นมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนต่อไป ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 20-24 ก.ค. 68 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ด้านการแจ้งเตือนและคาดการณ์สถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม โดยกรมทรัพยากรน้ำได้รายงานพื้นที่เสี่ยง น้ำหลากดินถล่มในระดับสูงและระดับปานกลาง รวมถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ด้านการบริหารจัดการน้ำ กรมชลประทานได้รายงานแผนการระบายน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำสำคัญ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่กรมทรัพยากรน้ำร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังเจ้าหน้าที่ไว้พร้อมให้การช่วยเหลือในกรณีเกิดน้ำท่วมฉับพลันหรือดินถล่ม ในช่วงท้ายของการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับมอบหมายให้จัดทำแผนเผชิญเหตุในพื้นที่รับผิดชอบ โดยให้เน้นการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เตรียมการอพยพประชาชน และจัดเตรียมศูนย์พักพิงให้พร้อมใช้งานหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกับชุมชนในพื้นที่เสี่ยงเพื่อสร้างความพร้อมสูงสุด ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรายงานให้ประชาชนทราบเป็นระยะ และให้ความมั่นใจว่าทุกภาคส่วนได้เตรียมความพร้อมเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่