รวมลิงค์ตัวช่วยเหลือการเข้าถึงเว็บไซต์
โครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำเดิ่นหินตั้ง
บ้านวังม่วง หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งสว่าง อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
ประทาย เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา เดิมมีฐานะเป็นตำบลประทายขึ้นกับเขตการปกครองอำเภอบัวใหญ่ ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอประทาย เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2504 และได้ยกฐานะเป็นอำเภอในปี 2506 ชื่ออำเภอประทาย ใช้ชื่อตามตำบลประทาย มีหมู่บ้านประทายเป็นหมู่บ้านเก่าแก่สมัยขอมเรืองอำนาจ ซึ่งได้แก่บ้านประทาย หมู่ที่ 2 ตำบลตลาดไทรในปัจจุบัน ซึ่งได้แยกจากตำบลประทาย คำว่า "ประทาย" เป็นภาษาเขมร แปลว่า "ป้อมค่ายหรือที่พักแรม" เข้าใจว่าเป็นทางผ่าน และที่พักแรมของทหารขอมในการไปสักการะปราสาทหินพิมาย
ตำบลทุ่งสว่าง ตั้งอยู่ในอำเภอประทาย แยกออกจากตำบลกระทุ่มราย เมื่อประมาณ 25 ปีมาแล้ว ตำบลทุ่งสว่าง มี 7 หมู่บ้าน พูดภาษาไทยโคราช แม่น้ำที่สำคัญไหลผ่าน 1 สาย คือ ลำสะแทด ตำบลทุ่งสว่างมีสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งนามีแม่น้ำไหลผ่านเหมาะแก่การเกษตร การทำนาเป็นแหล่งผลิต ข้าวพันธุ์ดี ในช่วงฤดูแล้งแห้งแล้งมาก สภาพดินเค็มผลผลิตทางการเกษตรได้ผลในระดับปานกลาง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 สภาพแหล่งน้ำที่ไม่ได้มีการพัฒนาทำให้มีสภาพตื้นเขิน องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งสว่าง จึงได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมทรัพยากรน้ำ เพื่อดำเนินโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูเดิ่นหินตั้ง บ้านวังม่วง หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งสว่าง อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเกษตรกรจะสามารถนำน้ำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่ม การนำน้ำมาใช้ประโยชน์ยังไม่มีข้อจำกัด
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 กรมทรัพยากรน้ำจึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยสูบน้ำด้วยระบบ Solar Cell ขนาดไม่น้อยกว่า 100 ลบ.ม. /วัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม ให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจใช้น้ำน้อยนอกเขตพื้นที่ชลประทาน ในช่วงฤดูแล้ง สนับสนุนน้ำต้นทุนในการผลิตน้ำอุปโภค บริโภค และบรรเทาภัยแล้ง ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประชาชนสามารถ นำน้ำจากแหล่งน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำมาใช้ในการเกษตรและลดต้นทุนได้ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ประชาชน เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นพ้นขีด ความยากจน 32,000 บาท/ปี ส่งน้ำต้นทุนจากที่ห่างไกลให้กับพื้นที่การเกษตร ระบบประปา หมู่บ้านหรือสระในหมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์ 30 ไร่ ครัวเรือน ได้รับประโยชน์ 120 ครัวเรือน
